วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 16, 2552

พิพิธภัณฑ์หินแปลก

ผู้ที่เห็นคุณค่าของหินแปลกจนสามารถนำมาจัดเป็นพิพิธำณฑ์ให้ผู้คนได้ชื่นชมกัน ก์คือ คุณบรรยง เลิศนิมิตร ซึ่งปัจจะบันเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ และเป็นรองประธานสมาคมสะสมหินนานาชาติ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงโซล ประเทศเกาเหลีใต้
คุณบรรยงได้เริ่มสะสมหินแปลกมาเป็นเวลานานกว่า ๑๐ ปี ไม่ว่าจะเป็นหินจากแม่น้ำ ภูเขา ถ้ำ หรือแม้กระทั่งฟอสซิล ตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างแปลก ๆ และสวยงามเรื่อยมา และเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกที จนถึงปัจจุบันมีหินแปลกอยู่นับแสนก้อน หินแต่ละก้อนได้มาจากการซื้อหาและเดินทางไปเก็บมาจากที่ต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศด้วยตนเอง รวมทั้งซื้อมาจากต่างประเทศด้วย
หินแปลกในหนังสือพิมพ์จี ซึ่งมีผู้แปลภาษาไทยไว้ว่า
"เพื่อเสาะหาหินแปลก ข้าพเจ้าตะลอนไปทั่วทั้งภาคอีสานของไทย เหยียบย่ำไปถึงริมฝั่งโขงที่จังหวัดเลย หรือ ชายแดนพม่าในเขตแม่ฮ่องสอน แม้กระทั่งเขตเขาลำเนาไพรที่มีธารน้ำไหล ซึ่งเคยเป็นถิ่นเก่าของพวกคอมมิวนิสต์ ในชายแดนไทย-มาเลเซีย ท่ามกลางแสงแดดแผดกล้า ข้าพเจ้าก็หาย่อท้อไม่ ข้าพเจ้าย่ำไปบนที่ราบสูง ทุ่งไหหินของประเทศลาวครั้งแรก หรือตามธารน้ำใสที่ไหลเอื่อยดุจสาวน้อยที่อายเหนียมในเขตสาละวัน หรือที่น้ำตกหลี่ผี ซึ่งไหลพุ่งดิ่งลงมาดั่งม้าควบมาหมื่นตัวก็ไม่ปาน ข้าพเจ้าก็หาก้อนหิน เก็บก้อนหินไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อก้อนหิน ข้าพเจ้ายังบินไปถึงอำเภอชินฮุ่ย ในเขตมณฑลกวางตุ้ง เมืองหนานหนิง เมืองหลิ่วโจว ในมณฑลกวางสี กระทั่งบินไปยังกรุงปักกิ่ง นครนานกิง เซี่ยงไฮ้ เจิ้งโจว และตะลุยไปถึงแม่น้ำล่อเหอ ในเมืองลกเอี๋ยงแห่งประเทศจีน"

คุณบรรยงเคยนำหินแปลกของไทยไปร่วมแสดงในงานนิทรรศการหินนานาชาติหลายแห่ง และได้รับความสนใจจากผู้ชมอย่างกว้างขวางในด้านความงามเชิงศิลปะจึงคิดว่าน่าจะจัดตั้งพิพิธภัณฑ์และนำหินแปลกที่สะสมไว้มาจัดแสดง โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะให้เป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านธรณีศึกษา ให้ได้ทราบถึงประวัติการก่อตัวของหิน หินประเภทต่าง ๆ อายุของหิน และสามารถเข้าถึงศิลปะความสวยงามมหัศจรรย์ของหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
พิพิธภัณฑ์หินแปลกได้เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๒ โดยมีรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยนั้นคือคุณปวีณา หงสกุล เป็นประธานพิธีเปิด
พิพิธภัณฑ์หินแปลก เป็นอาคาร ๓ ชั้น ในใจกลางกรุงเทพมหานคร ตั้งอยู่ที่ปากซอยเจริญกรุง ๒๖ ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก เปิดบริหารทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐-๑๗.๐๐ น.
บริเวณชั้น ๑ และ ชั้น ๒ เป็นสถานที่จัดแสดงหินแปลก หินหยก ฟอสซิล หินธรรมชาติ และหินย้อย จำนวน ๒,๐๐๐ กว่าชิ้น ซึ่งกว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นหินที่มีอายุกว่า ๒๐๐ ล้านปี และ มีแปล่งกำเนิดในประเทศไทยเกือบทั้งสิ้น
หินแต่ละชนิดจะมีชื่อและข้อมูลทางวิชาการเขียนกำกับไว้ทุกก้อน คุณบรรยงเป็นผู้ตั้งชื่อหินเองเป็นภาษาจีนตามจินตนาการที่ได้ใช้เวลาคลุกคลีกับกันมาตลอด และ มีผู้เชี่ยวชาญแปลเป็นภาษาไทยให้ เมื่อเห็นชื่อแล้วเราสามารถนึกภาพตามรูปลักษณ์ของหินที่ปรากฎได้เลย เช่น ศาลาหลบฝน แหลมทอง เรือน้อยคล้อยลับเขาพันลูก มุมหนึ่งแห่งเขาหวงซาน สุดหล้าฟ้าเขียว จรัสจ้าทั่วหล้าปทุมรัฐ จู่โจมอ่าวเพิร์ล เหนือฟ้ายังมีฟ้า และ สายฝนฉ่ำฟ้าหน้าซัวเทียน
อาคารชั้น ๒ มี ลานหินนวดเท้าเพื่อสุขภาพ พร้อมกับมีภาพและคำอธิบายจุดต่าง ๆ ประกอบว่าจะสามารถผ่อนคลายโรคต่าง ๆ ระดับหนึ่งได้อย่างไร เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรงเบาหวาน โรคไขข้ออักเสบ และโรคเครียด
ชั้น ๓ เป็นการจัดแสดงที่เขี่ยบุหรี่จากประเทศต่าง ๆ ที่คุณบรรยงได้สะสมไว้ประมาณ ๔,๐๐๐ ชิ้น ทำจากวัสดุหลายชนิด เช่น ดินเผา กระดูกสัตว์ ไม้ ไม้ไผ่ เปลือกหอยมุก คริสตัล ทองเหลือง แก้ว และ เซรามิก
ชิ้นที่หาดูยากและน่าชมได้แก่ ที่เขี่ยวบุหรี่กะโหลกเสือดาวเลี่ยมเงินของไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ และที่เขี่ยบุหรี่เปลือกหอยมุกของนายมากอส อดีตประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
ผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หินแปลก สอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์ ๐-๒๒๓๖-๕๖๕๕, ๐-๒๒๓๖-๕๗๑๒ โทรสาร ๐-๒๒๓๗-๒๑๑๒
อสท.ปีที่ ๔๓ ฉบับที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๕

วันศุกร์, กรกฎาคม 03, 2552

Bouquets of Love..ช่อดอกไม้แห่งความรัก


ดูหนังดูละคร เห็นภาพดารานักร้องต่างตบเท้าเข้าพิธีวิวาห์
ชุดเจ้าสาวพองฟู มีเด็กหน้าตาน่ารักคอยจับชายกระโปรงตอนเดินเข้าไปทำพิธีในโบสถ์ตามวัฒนธรรมฝรั่ง ช่างเป็นภาพที่งดงามตรึงตาตรึงใจฉันเสียจริง อิงอิจฉานิด ๆ
บรรยากาศสีขาวให้ความอ่อนหวานโรแมนติก ผู้หญิงสาวสวยที่สุด สุขที่สุด ก็คงงานนี้ล่ะ
ไม่ว่าเสื้อผ้า หน้า ผม รวมถึง รองเท้า เข้ากับชุด ต่างถูกออกแบบมาให้เจ้าสาวสวยโดดเด่นตรึงตาตรึงใจ
เพราะดีไซเนอร์ถือว่า ชุดเจ้าสาว คือ ชุดแห่งความทรงจำ จึงปรารถนาให้เจ้าสาวทุกคนได้มีความทรงจำที่งดงามตลอดไป จึงได้ให้ความสำคัญและทุ่มเทเวลาเพื่อออกแบบชุดเจ้าสาวให้สวยที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า
"Wedding girl"..ชุดเจ้าสาวมักไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าใดนัก ชุดยาวที่ดูโรแมนติก สวยหวาน หรือ ชุดเปลือยใหล่งาม ยังคงได้รับความนิยมอยู่ทุกยุคทุกสมัย
งานประเพณีก็จะมีทั้งไทยและเทศ ทางยุโรปงานแต่งเรียบง่าย เช้าเข้าโบสถ์ บ่าย Wedding Reception รับแขกด้วยงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เปิดแชมเปญ ,และ Wedding Cake ส่วนของคนไทยใช้ได้ทุกพิธี ตั้งแต่ยกน้ำชา ยกขันหมาก กั้นประตูเงินประตูทอง ตัดเค็ก รวมทุกชนิดอยู่ในงานเดียว
สิ่งของสำคัญในพิธีนอกจากของชำร่วย ซึ่งเปรียบเสมือนสื่อแทนใจจากคู่บ่าวสาว หรือ แทนคำขอบคุณจากคู่บ่าวสาวแล้ว ยังมีช่อดอกไม้ใหญ่สุดอลังการงานสร้างให้ผู้หญิงทุกคนใฝ่ฝันจะได้ถือครอง และมอบความสุขเฉกเช่นช่วงเวลาเหล่านี้ต่อให้กับสาวเจ้าคนอื่น ๆ ต่อไป
ในงานมงคล ช่อดอกไม้สำหรับเจ้าสาว มักจะเป็นช่อโตมากกว่าช่อเล็ก แต่พอแต่งครั้งต่อไปขนาดช่อจะเล็กลง ช่อดอกไม้มักเป็นรูปวงรี Posy เป็นชายยาวเหมือนหางนกยูง ใบที่ใช้มากที่สุดคือ ใบไอวี่ แทนความหมายของความสมบูรณ์พูนสุขของเพศแม่ที่มีต่อสามีและลูก
จากยุคเซลติก หรือ โรมัน จนถึง คาทอลิก ได้ตั้งความหมายมงคลแห่งดอกไม้แต่ละชนิดไว้เลอเลิศ "Florist"หรือ นักจัดดอกไม้ ย่อมจะต้องรู้ความหมายของดอกไม้แต่ละชนิดก่อนนำมาจัดเข้าช่อเพื่อให้เจ้าสาวได้ถือครองเข้าพิธี
"Bouquets of Love" ..ช่อดอกไม้แห่งรัก
Azalea(ดอกอาซาลี) หมายถึง ความซื่อสัตย์ และ รักแท้ที่มีให้กันตลอดชีวิต
Cedar Leaf(ใบซีดาร์) ฉันจะอยู่เพื่อเธอจนวันตาย
Celandine(เซลันดีน) ความสุขกำลังจะมาถึง
Chervil(เชอวิล) ความซื่อสัตย์ซึ่งกันและกัน
Forget me not(ฟอร์เก็ตมีน็อต) อย่าลืมฉัน หมายถึง ความรักที่จริงใจ True Love
Freesia(ฟรีเซีย) กรุ่นรักมิรู้คลาย ดอกไม้แห่งนางไซคี ชายาแห่งกามเทพ
Geranium(จีเรเนี่ยม) มิตรภาพที่จริงใจต่อกันตลอดไป
Gorse(กอร์ส) ความรักและอาทรที่มีให้กันชั่วฟ้าดินสลาย
Heliotrope(ฮิลิอะโทรพ) ดอกไม้สีม่วงแดง คือ การบูชาเทพเจ้าแห่งความรัก
Hycainth(ไฮยาซิน) ฉันจะซื่อสัตย์ต่อเธอตลอดไป
Ivy(ไอวี่) ความจงรักภักดี
Mudwort(มัดเวิร์ต) ความสมบูรณ์พูนสุข
Red Rose(กุหลาบแดง) คือ รักนิรันดร์ ดอกไม้แห่งกามเทพ
Sweet Pea(สวีทพี) คือ ความสุขใสโชติช่วงชัชวาล
Violet(ไวโอเล็ต) คือ คำมั่นสัญญาแห่งรัก
White Rose(กุหลาบขาว) คือ รักอันแสนบริสุทธิ์จากสาวบริสุทธิ์ ดอกไม้แห่งเทวี Athena(เอเทน่า)
Carla Lily(คาร่า ลิลลี่) คือ ชั่วนิจนิรันดร์กาล
Baby Bless(เบบี้เบลส) หรือ ดอกยิปโซ คือ ฉันจะมีเด็ก ๆ ให้เธอชื่นชมมากมาย
Show Drop(สโนว์ดร็อพ) หยาดน้ำตาแห่งรักนิรันดร์
งานมงคลในพิธีคนไทย มีการร้อยพวงดอกไม้มงคลซึ่งถือเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน ดอกไม้ที่ใช้ ดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ความหมายคือ รักกันไม่รู้โรยรา ดอกไม้อื่น ๆ ที่มีความหมายดีก็จะมี จำปา พุด กุหลาบ มนฑา สารภี พิกุล โดยเฉพาะ จำปา..ใช้มากในงานมงคลชั้นสูง ส่วนดอกกล้วยไม้ไม่นิยมนำมาประดับในงานมงคลเพราะต่างกลัวคำผวนจากกล้วยไม้ เป็น ใกล้ม้วย คนจึงไม่นิยม ทางยุโรป ก็จะเป็น คาร์เนชั่น ลิลลี่ลำโพง ดอกCutter มัม เยอบีร่า ที่ไม่ใช้ในงานพิธีมงคล เพราะดอกไม้เหล่านี้ใช้ในงานศพ

Health tip

การเดินเท้าเปล่า ทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ ตามหลักการแพทย์แผนโบราณของจีนกล่าวว่า เท้าเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่รับเอาพลังจากพื้นดิน
การเปลือยเท้าสัมผัสพื้นดินทำให้ไฟธาตุร่างกายเกิดความสมดุล ช่วยเสริมพลังให้แก่ร่างกาย และที่ฝ่าเท้ามีจุดต่าง ๆ อยู่มากมายที่มีความสัมพันธ์กับอวัยวะภายในร่างกาย ดังนั้น การเดินเท้าเปล่าจึงไปช่วยกระตุ้นจุดเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจุดที่เรียกว่า "หย่งเฉวียน" ซึ่งถ้าหากมีการกระตุ้นที่เหมาะสมแล้ว สมองส่วนที่สัมพันธ์กับไตไขสันหลัง และระบบประสาทจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การขับฮอร์โมนต่าง ๆ เป็นไปอย่างสมบูรณ์...

การปรับตัวของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม




การปรับตัวของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม
ในการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งแวดล้อม จำเป็นจะต้องบูรณาการด้านความรู้หลาย ๆ ด้านได้มีวิชาการใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงการพัฒนา โดยเฉพาะ วิชาโบราณคดีสิ่งแวดล้อม และ ประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อม (Environment History) จะช่วยให้เข้าใจการปรับตัวของมนุษย์กับสิ่งแวดล้อมในกาล และ สถานที่ต่าง ๆ

วันพฤหัสบดี, กรกฎาคม 02, 2552

ไลน์นิตยสาร

วิถีชีวิตนิตยสาร...สมัยคนเมืองมีความสนใจในธุรกิจนิตยสารกันมาก ทั้งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ต่างเปิดฟอร์กันสนั่นแผง

มาดูกันนะคะว่านิตยสารเขามีการดำเนินการกันอย่างไร

มีการวางทีมงานไว้ล่วงหน้า เนื้อหาข้อมูลต้องหากันข้ามเดือนข้ามปี ผนวกเหตุการณ์ปัจจุบันด้วยการอ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าว เข้าเน็ต เพราะนิตยสารต้องอาศัยเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นหลัก เนื้อหาต้องตามกระแส ตามฤดูกาล ช่วงหน้าฝน หน้าหนาว หน้าร้อน ล้วนมีฤดูกาลเป็นตัวกำหนด

บางเรื่องเน้นการพิสูจน์ บางเรื่องเน้นการวิเคราะห์ ก็แล้วแต่จะวางธีมหนังสือออกมาแนวไหนก็จะเน้นจุดนั้นไป

กระดาษพิมพ์ก็จะมีแบบถนอมสายตา และ กระดาษปกติ ถ้าจะใช้กระดาษถนอมสายตาทั้งเล่มก็คงต้องลงทุนมาก แล้วยังเรื่องสีเพี้ยนซึ่งเป็นปัญหากับเหล่าโฆษณาสินค้าที่เป็นผู้อุปถัมภ์หลักของนิตยสารอีก

คนทำนิตยสารต้องศึกษาเยอะ บางทีถึงกับต้องอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่งทั้งค้นหา ทั้งพิจารณาทั้งวันทั้งคืน

ยกตัวอย่าง ข่าวคราวคนดังทำหนังสือช่วงนี้ก็เห็นจะมีคู่รักแห่งวงการบันเทิง น้ำฝน..กุณณัฎฐ์ กุลปรียาวัฒน์ กับ พระเอกหล่อรู้ใจ สเตฟาน..สันติ วีรบุญชัย ที่แบ่งเวลาจากการเล่นละครมาทำนิตยสารเกี่ยวกับสุขภาพ เขาทั้งสองไม่ได้ลงมือทำกันเพียงสองคน แต่ยังมีทีมงานที่เตรียมหามาลองรับเนื้องานอยู่ก่อนแล้ว มี..วีระเดช ชูแสงกิจ ที่ชำนาญและมีประสบการณ์ในการทำหนังสือร่วมลงทุนลงแรง การเตรียมความพร้อมที่ดีจึงไม่น่าแปลกที่นิตยสารสุขภาพดีจะวางเด่นอยู่บนแผงหนังสือและมีความเคลื่อนไหวที่สง่างามสมความตั้งใจของคนทำ

ณ แรกรัก

ชื่อเรื่อง ณ แรกรัก ผู้แต่ง ปาระมิตา แนวโรแมนติกแฟนตาซี จำนวน 462 หน้า สำนักพิมพ์กรีนมายด์ ภาสุระนครแห่งนี้มีเจ้าชายและเจ้าหญิงเป็นแ...