ตรัง..หรือ เมืองทับเที่ยง ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศ เป็นเมืองแรกที่มีต้นยางพารา โดยพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี..นำพันธุ์จากประเทศมาเลเซียมาปลูกเป็นแห่งแรกของภาคใต้ เมื่อพ.ศ.๒๔๔๒ และนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย
แม่น้ำ..ตรังมีแม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำตรัง มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหลวง และแม่น้ำปะเหลียน ซึ่งมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาบรรทัด เป็นจังหวัดชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย มีฝั่งทะเลยาวประมาณ ๑๑๙ กิโลเมตร ทางด้านตะวันตกประกอบด้วยหมู่เกาะในทะเลอันดามันที่อยู่ในการปกครองกว่า ๔๖ เกาะ ภายในพื้นที่อำเภอกันตัง ๑๒ เกาะ และอำเภอสิเกา ๒๑ เกาะ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว คือ ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม
พื้นที่..ตรังมีพื้นที่ประถมาณ ๔,๙๔๑ ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น ๑๐ อำเภอ คือ อำเภอเมืองตรัง อำเภอกันตัง อำเภอห้วยยอด อำเภอย่านตาขาว อำเภอปะเหลียน อำเภอสิเกา อำเภอวังวิเศษ อำเภอนาโยง อำเภอรัษฎา และอำเภอหาดสำราญ
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ..
อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูก
สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาช่อง..สถานีฯมีบ้านพักและลานเต็นท์ แต่ต้องนำเต็นท์ไปเอง
ถ้ำเขาช้างหาย..เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยแบบต่าง ๆ ที่สวยงามสลับซับซ้อนอยู่เป็นจำนวนมาก
หาดหยงหลิง-หาดสั้น..เป็นหาดทรายรูปโค้งขนานไปกับดงสน สุดชายหาดเป็นเขาสูงมีเวิ้งและโพรงถ้ำ
เกาะมุกและถ้ำมรกต ..เป็นจุดเด่นที่สุดในทะเลตรัง ค่าเช่าเรือเหมาชมเกาะประมาณ ๑,๘๐๐ -๒,๕๐๐ บาท ใช้เวลาเดินทาง ๔๐ นาทีจากท่าเรือปากเมง อ.สิเกา
เกาะกระดาน..เกาะนี้อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดานมีหาดทรายขาวละเอียด น้ำใสจนมองเห็นแนวปะการัง
อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม..มีศูนย์ศึกษาธรรมชาติทางทะเล มีที่พักบริการนักท่องเที่ยว
วันพุธ, มีนาคม 18, 2552
วันอังคาร, มีนาคม 17, 2552
"กาโรส"กับภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์
"กาโรส" เป็นชื่อของกลุ่มภูเขาหินปูนที่มีลักษณะสวยงาม แปลกตาในพื้นที่หมู่ ๕ บ้านควนโอ ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ แต่เดิมภูเขาลูกนี้ชื่อเรียกในภาษามลายูว่า "กูลูน" แปลว่าหยิก ไม่ดี ไม่สวย ซึ่งตั้งตามสภาพภูมิประเทศแถบนี้ที่ดูตะปุ่มตะป่ำ
พื้นที่โดยรอบภูเขาหินปูนลูกนี้นับได้ว่ามีทั้งความหลากหลายทางนิเวศวิทยา ทั้งผืนป่าบนเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปจนถึงป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เหมาะที่จะล่องเรือ หรือนั่งเรือแคนูชมธรรมชาติและศึกษาพันธุ์ไม้
ภาพเขียนสีที่นี่จารึกอยู่บนหน้าผาสูง ลงลายเส้นสีแดงสด บันทึกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคน และสัตว์ สันนิษฐานว่า น่าจะมีอายุราว ๆ ๓,๐๐๐ -๕,๐๐๐ ปี พอ ๆ กับภาพเขียนสีที่พบในอ่าวพังงา
ส่วนภาพเขียนอีกจุดหนึ่งซึ่งห่างออกไปไม่มากนัก ยังพบภาพเขียนสีบนหน้าผาอีกแห่ง จารึกเป็นรูปเรขาคณิต เป็นรูปวงกลมเล็ก ๆ สีแดงทึบ มีลายเส้น ซึ่งยังต้องผ่านการพิสูจน์จากนักโบราณคดีต่อไปว่า มีอายุอยู่ในยุคสมัยใดกันแน่
ร้อนนี้หาแหล่งพักกายคลายร้อนเหมาะ ๆ ท่องทะเลชมเกาะ และดำน้ำที่ทะเลกระบี่ ป่าสวย ๆ และภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ทริปนี้คุ้มค่าน่าลองไปชม...
พื้นที่โดยรอบภูเขาหินปูนลูกนี้นับได้ว่ามีทั้งความหลากหลายทางนิเวศวิทยา ทั้งผืนป่าบนเขาที่อุดมสมบูรณ์ไปจนถึงป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เหมาะที่จะล่องเรือ หรือนั่งเรือแคนูชมธรรมชาติและศึกษาพันธุ์ไม้
ภาพเขียนสีที่นี่จารึกอยู่บนหน้าผาสูง ลงลายเส้นสีแดงสด บันทึกสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคน และสัตว์ สันนิษฐานว่า น่าจะมีอายุราว ๆ ๓,๐๐๐ -๕,๐๐๐ ปี พอ ๆ กับภาพเขียนสีที่พบในอ่าวพังงา
ส่วนภาพเขียนอีกจุดหนึ่งซึ่งห่างออกไปไม่มากนัก ยังพบภาพเขียนสีบนหน้าผาอีกแห่ง จารึกเป็นรูปเรขาคณิต เป็นรูปวงกลมเล็ก ๆ สีแดงทึบ มีลายเส้น ซึ่งยังต้องผ่านการพิสูจน์จากนักโบราณคดีต่อไปว่า มีอายุอยู่ในยุคสมัยใดกันแน่
ร้อนนี้หาแหล่งพักกายคลายร้อนเหมาะ ๆ ท่องทะเลชมเกาะ และดำน้ำที่ทะเลกระบี่ ป่าสวย ๆ และภาพเขียนก่อนประวัติศาสตร์ ทริปนี้คุ้มค่าน่าลองไปชม...
วันเสาร์, มีนาคม 14, 2552
ตำนานนางสงกรานต์
นางสงกรานต์...เป็นคติความเชื่ออยู่ในตำนานสงกรานต์ ซึ่งรัชกาลที่ ๓ ให้ลงจารึกในแผ่นศิลาติดไว้ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) เป็นเรื่องเล่าถึงความเป็นมาของประเพณีดังกล่าวซึ่งเป็นอุบายเพื่อให้คนโบราณผู้ไม่รู้หนังสือได้รู้ว่าวันแห่สงกรานต์ คือ วันที่พระอาทิตย์ยกขึ้นสู่ราศีเมษ ซึ่งสมัยนั้นถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามสุริยคติตรงกับวันใด โดยสมมุติผ่านนางสงกรานต์ทั้ง ๗ เทียบกับแต่ละวันในสัปดาห์
นางสงกรานต์ทั้งเจ็ดนี้ ล้วนเป็นเทพธิดา ธิดาท้าวกบิลพรหม และเป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์ จากตำนานเล่าถึงท้าวกบิลพรหมแพ้พนันธรรมบาลกุมาร จนต้องตัดเศียรออกบูชาธรรมบาลกุมารตามสัญญา แต่เนื่องจากเศียรของท้าวกบิลพรหมตกไปอยู่ที่ใดแล้ว ก็จะเป็นอันตรายต่อที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นบนอากาศ บนดินหรือในน้ำ จึงต้องมีผู้รับหน้าที่นำพานมารองรับและนำไปประดิษฐานไว้ ณ เขาไกรลาส ครั้นถึงกำหนด ๓๖๕ วัน ซึ่งโลกสมมติว่าเป็นปีหนึ่งเวียนมาถึงวันมหาสงกรานต์ เทพธิดาทั้งเจ็ดก็ทรงพาหนะต่าง ๆ ผลัดเวรกันมาเชิญเศียรของบิดาออกแห่ในวันมหาสงกรานต์เป็นประจำปี จึงได้ชื่อว่า "นางสงกรานต์" ส่วนท้าวกบิลพรหมนั้นโดยนัยก็คือ พระอาทิตย์ นั่นเอง เพราะ "กบิล" หมายถึง "สีแดง"
ที่สำคัญ..นางสงกรานต์แต่ละนาง จะมีนามอาหาร อาวุธ และสัตว์ที่เป็นพาหนะต่าง ๆ กัน ตามวันมหาสงกรานต์ ดังต่อไปนี้
วันอาทิตย์..นางสงกรานต์นาม นางทุงษะ ทัดดอกทับทิมเครื่องประดับปัทมราค หรือ ปัทมราช(พลอยสีแดง)ภักษาหาร..มะเดื่อ หัตถ์ขวาถือ..จักร หัตถ์ซ้ายถือ..สังข์ มีครุฑ..เป็นพาหนะ
วันจันทร์..นางสงกรานต์นาม นางโคราคะ ทัดดอกปีบ เครื่องประดับมุกดา ภักษาหาร..น้ำมัน หัตถ์ขวาถือ..พระขรรค์ หัตถ์ซ้ายถือ..ไม้เท้า มีเสือ..เป็นพาหนะ
วันอังคาร..นางสงกรานต์นาม นางรากษส ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับโมรา ภักษาหาร..โลหิต หัตถ์ขวาถือ..ตรีศูล หัตถ์ซ้ายถือ..ธนู มีสุกร(หมู) เป็น..พาหนะ
วันพุธ..นางสงกรานต์นาม นางมณฑา ทัดดอกจำปา เครื่องประดับไฟฑูรย์ ภักษาหาร..นมเนย หัตถ์ขวาถือ..เหล็กแหลม หัตถ์ซ้ายคือ..ไม้เท้า มีศัลพะ(ลา)..เป็นพาหนะ
วันพฤหัสบดี..นางสงกรานต์นาม นางกิรีณี ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับมรกต ภักษาหาร..ถั่วงา หัตถ์ขวาคือ..ขอช้าง หัตถ์ซ้ายถือ..ปืน มีช้าง..เป็นพาหนะ
วันศุกร์..นางสงกรานต์นาม นางกิมิทา ทัดดอกจงกลนี เครื่องประดับบุษราคัม ภักษาหาร..กล้วยน้ำ หัตถ์ขวาถือ..พระขรรค์ หัตถ์ซ้ายถือ..พิณ มีกระบือ(ควาย)..เป็นพาหนะ
วันเสาร์..นางสงกรานต์นาม นางมโหทร ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหาร..เนื้อทราย หัตถ์ขวาถือ..จักร หัตถ์ซ้ายถือ..ตรีศูล มีนกยูง..เป็นพาหนะ
สำหรับวันมหาสงกรานต์ปีนี้เป็นวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ตรงกับวันจันทร์ นางสงกรานต์นามโคราคะ จึงรับหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมมาแห่แหนทั่วเมืองมนุษย์...
ข้อมูลจาก กองสร้างสรรค์กิจกรรม ททท.
นางสงกรานต์ทั้งเจ็ดนี้ ล้วนเป็นเทพธิดา ธิดาท้าวกบิลพรหม และเป็นบาทบริจาริกาของพระอินทร์ จากตำนานเล่าถึงท้าวกบิลพรหมแพ้พนันธรรมบาลกุมาร จนต้องตัดเศียรออกบูชาธรรมบาลกุมารตามสัญญา แต่เนื่องจากเศียรของท้าวกบิลพรหมตกไปอยู่ที่ใดแล้ว ก็จะเป็นอันตรายต่อที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นบนอากาศ บนดินหรือในน้ำ จึงต้องมีผู้รับหน้าที่นำพานมารองรับและนำไปประดิษฐานไว้ ณ เขาไกรลาส ครั้นถึงกำหนด ๓๖๕ วัน ซึ่งโลกสมมติว่าเป็นปีหนึ่งเวียนมาถึงวันมหาสงกรานต์ เทพธิดาทั้งเจ็ดก็ทรงพาหนะต่าง ๆ ผลัดเวรกันมาเชิญเศียรของบิดาออกแห่ในวันมหาสงกรานต์เป็นประจำปี จึงได้ชื่อว่า "นางสงกรานต์" ส่วนท้าวกบิลพรหมนั้นโดยนัยก็คือ พระอาทิตย์ นั่นเอง เพราะ "กบิล" หมายถึง "สีแดง"
ที่สำคัญ..นางสงกรานต์แต่ละนาง จะมีนามอาหาร อาวุธ และสัตว์ที่เป็นพาหนะต่าง ๆ กัน ตามวันมหาสงกรานต์ ดังต่อไปนี้
วันอาทิตย์..นางสงกรานต์นาม นางทุงษะ ทัดดอกทับทิมเครื่องประดับปัทมราค หรือ ปัทมราช(พลอยสีแดง)ภักษาหาร..มะเดื่อ หัตถ์ขวาถือ..จักร หัตถ์ซ้ายถือ..สังข์ มีครุฑ..เป็นพาหนะ
วันจันทร์..นางสงกรานต์นาม นางโคราคะ ทัดดอกปีบ เครื่องประดับมุกดา ภักษาหาร..น้ำมัน หัตถ์ขวาถือ..พระขรรค์ หัตถ์ซ้ายถือ..ไม้เท้า มีเสือ..เป็นพาหนะ
วันอังคาร..นางสงกรานต์นาม นางรากษส ทัดดอกบัวหลวง เครื่องประดับโมรา ภักษาหาร..โลหิต หัตถ์ขวาถือ..ตรีศูล หัตถ์ซ้ายถือ..ธนู มีสุกร(หมู) เป็น..พาหนะ
วันพุธ..นางสงกรานต์นาม นางมณฑา ทัดดอกจำปา เครื่องประดับไฟฑูรย์ ภักษาหาร..นมเนย หัตถ์ขวาถือ..เหล็กแหลม หัตถ์ซ้ายคือ..ไม้เท้า มีศัลพะ(ลา)..เป็นพาหนะ
วันพฤหัสบดี..นางสงกรานต์นาม นางกิรีณี ทัดดอกมณฑา เครื่องประดับมรกต ภักษาหาร..ถั่วงา หัตถ์ขวาคือ..ขอช้าง หัตถ์ซ้ายถือ..ปืน มีช้าง..เป็นพาหนะ
วันศุกร์..นางสงกรานต์นาม นางกิมิทา ทัดดอกจงกลนี เครื่องประดับบุษราคัม ภักษาหาร..กล้วยน้ำ หัตถ์ขวาถือ..พระขรรค์ หัตถ์ซ้ายถือ..พิณ มีกระบือ(ควาย)..เป็นพาหนะ
วันเสาร์..นางสงกรานต์นาม นางมโหทร ทัดดอกสามหาว เครื่องประดับนิลรัตน์ ภักษาหาร..เนื้อทราย หัตถ์ขวาถือ..จักร หัตถ์ซ้ายถือ..ตรีศูล มีนกยูง..เป็นพาหนะ
สำหรับวันมหาสงกรานต์ปีนี้เป็นวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ตรงกับวันจันทร์ นางสงกรานต์นามโคราคะ จึงรับหน้าที่อัญเชิญพระเศียรท้าวกบิลพรหมมาแห่แหนทั่วเมืองมนุษย์...
ข้อมูลจาก กองสร้างสรรค์กิจกรรม ททท.
วันพฤหัสบดี, มีนาคม 12, 2552
สงกรานต์ ปี ๒๕๕๒
มหาสงกรานต์กรุงเทพมหานคร...กำหนดจัดงานวันที่ ๑๐-๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ พื้นที่จัดกิจกรรม บริเวณ ๙ พระอารามหลวง และพื้นที่รอบเกาะรัตนโกสินทร์
๑ ไหว้พระขอพร ๙ พระอารามหลวง
๒ แต่งไทยเล่นน้ำสงกรานต์แบบวิถีไทย บริเวณถนนข้าวสาร
สงกรานต์กรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา ...กำหนดจัดงานวันที่ ๑๒-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ พื้นที่จัดงาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วิหารพระมงคลบพิตร และบริเวณโดยรอบเกาะเมืองอยุธยา
สงกรานต์จังหวัดชลบุรี... ประเพณีเกาะสีชัง วันที่ ๑๓-๑๙ เมษายน กิจกรรมอุ้มสาวลงน้ำ(คือการขออนุญาตจากฝ่ายชายอุ้มฝ่ายหญิงลงเล่นน้ำทะเล และอุ้มมาส่งจากนั้นจะมีการรำวงร่วมกัน)
สงกรานต์สุพรรณบุรี วันที่ ๑๒-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หมู่บ้านเณรแก้ว มีขบวนแห่หลวงพ่อโตทองคำ ขบวนแห่สงกรานต์ และการประกวดเทพีสงกรานต์
สงกรานต์พระประแดง จ.สมุทรปราการ...วันที่ ๑๗-๑๙ เมษายน บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง มีขบวนแห่งหงส์ธงตะขาบ ขบวนรถบุปผาชาติ ขบวนสาวงามแต่งกายด้วยชุดไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้าน การเล่นสะบ้าของชาวไทยรามัญ
งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ. เชียงใหม่... วันที่ ๑๒-๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ บริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ มีขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ การแสดงพื้นเมือง
การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน ถนนวัฒธรรมคนเมือง
๑ ไหว้พระขอพร ๙ พระอารามหลวง
๒ แต่งไทยเล่นน้ำสงกรานต์แบบวิถีไทย บริเวณถนนข้าวสาร
สงกรานต์กรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา ...กำหนดจัดงานวันที่ ๑๒-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ พื้นที่จัดงาน อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา วิหารพระมงคลบพิตร และบริเวณโดยรอบเกาะเมืองอยุธยา
สงกรานต์จังหวัดชลบุรี... ประเพณีเกาะสีชัง วันที่ ๑๓-๑๙ เมษายน กิจกรรมอุ้มสาวลงน้ำ(คือการขออนุญาตจากฝ่ายชายอุ้มฝ่ายหญิงลงเล่นน้ำทะเล และอุ้มมาส่งจากนั้นจะมีการรำวงร่วมกัน)
สงกรานต์สุพรรณบุรี วันที่ ๑๒-๑๔ เมษายน ๒๕๕๒ ณ บริเวณลานอเนกประสงค์หมู่บ้านเณรแก้ว มีขบวนแห่หลวงพ่อโตทองคำ ขบวนแห่สงกรานต์ และการประกวดเทพีสงกรานต์
สงกรานต์พระประแดง จ.สมุทรปราการ...วันที่ ๑๗-๑๙ เมษายน บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอพระประแดง มีขบวนแห่งหงส์ธงตะขาบ ขบวนรถบุปผาชาติ ขบวนสาวงามแต่งกายด้วยชุดไทยรามัญ การละเล่นพื้นบ้าน การเล่นสะบ้าของชาวไทยรามัญ
งานป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง จ. เชียงใหม่... วันที่ ๑๒-๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ บริเวณทั่วเมืองเชียงใหม่ มีขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ การแสดงพื้นเมือง
การสาธิตศิลปะพื้นบ้าน ถนนวัฒธรรมคนเมือง
เทศกาลสงกรานต์
เทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยมาแต่โบราณ เป็นประเพณีที่แสดงออกถึงความงดงาม อ่อนโยน เอื้ออาทร รวมทั้งเต็มไปพ้วยความสนุกสนาน
ความหมาย..สงกรานต์ คำ ๆ นี้มาจากภาษาสันสกฤตแปลว่า "ก้าวขึ้น" หรือ "ผ่าน" หรือ "เคลื่อนย้าย" หมายถึง การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีหนึ่งเข้าไปอีกราศรีหนึ่ง เช่น เคลื่อนจากราศีพฤษภไปสู่ราศีเมถุน อันเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกเดือนเรียกว่า "สงกรานต์เดือน" ยกเว้นว่าเมื่อพระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษเมื่อใดก็ตามก็จะเรียกชื่อเป็นพิเศษว่า "มหาสงกรานต์" อันหมายถึงการก้าวขึ้นครั้งใหญ่ซึ่งนับเป็นครั้งสำคัญ เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามคติพราหมณ์ โดยเป็นการนับทางสุริยคติ ตรงกับวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ซึ่งแต่วะลันจะมีชื่อเรียกเฉพาะ ดังนี้
วันที่ ๑๓ เมษายน เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" หมายถึง วันที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษอีกครั้ง หลังจากผ่านเข้าสู่ราศีอื่น ๆ จนครบ ๑๒ เดือน
วันที่ ๑๔ เมษายน เรียกว่า "วันเนา" แปลว่า วันอยู่ หมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์เข้าเคลื่อนสู่ราศีเมษอันเป็นราศีตั้งต้นปี เข้าที่เข้าทางเรียบร้อย
วันที่ ๑๕ เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" ถือเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การกำหนดให้อยู่ในวันนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าดวงอาทิตย์โคจรจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษแล้วอย่างน้อย ๑ องศา
จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์..พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณมายังท้องสนามหลวงเพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะบูชาและสรงน้ำในวันสงกรานต์ ซึ่งเริ่มปฏิบัติกันเมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๗ ในสมัยพระยาพหลพลพยุเสนาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยทางการเป็นผู้จัดทำขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจในโอกาสเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย ดังนั้น ทุกวันสงกรานต์เราจึงได้สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ปีละครั้งและถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน
ความหมาย..สงกรานต์ คำ ๆ นี้มาจากภาษาสันสกฤตแปลว่า "ก้าวขึ้น" หรือ "ผ่าน" หรือ "เคลื่อนย้าย" หมายถึง การเคลื่อนย้ายของพระอาทิตย์จากราศีหนึ่งเข้าไปอีกราศรีหนึ่ง เช่น เคลื่อนจากราศีพฤษภไปสู่ราศีเมถุน อันเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้นทุกเดือนเรียกว่า "สงกรานต์เดือน" ยกเว้นว่าเมื่อพระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษเมื่อใดก็ตามก็จะเรียกชื่อเป็นพิเศษว่า "มหาสงกรานต์" อันหมายถึงการก้าวขึ้นครั้งใหญ่ซึ่งนับเป็นครั้งสำคัญ เพราะถือว่าวันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามคติพราหมณ์ โดยเป็นการนับทางสุริยคติ ตรงกับวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ซึ่งแต่วะลันจะมีชื่อเรียกเฉพาะ ดังนี้
วันที่ ๑๓ เมษายน เรียกว่า "วันมหาสงกรานต์" หมายถึง วันที่พระอาทิตย์เคลื่อนเข้าสู่ราศีเมษอีกครั้ง หลังจากผ่านเข้าสู่ราศีอื่น ๆ จนครบ ๑๒ เดือน
วันที่ ๑๔ เมษายน เรียกว่า "วันเนา" แปลว่า วันอยู่ หมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์เข้าเคลื่อนสู่ราศีเมษอันเป็นราศีตั้งต้นปี เข้าที่เข้าทางเรียบร้อย
วันที่ ๑๕ เมษายน เรียกว่า "วันเถลิงศก" ถือเป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การกำหนดให้อยู่ในวันนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าดวงอาทิตย์โคจรจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษแล้วอย่างน้อย ๑ องศา
จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์..พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณมายังท้องสนามหลวงเพื่อให้ประชาชนได้มาสักการะบูชาและสรงน้ำในวันสงกรานต์ ซึ่งเริ่มปฏิบัติกันเมื่อปีพ.ศ.๒๔๗๗ ในสมัยพระยาพหลพลพยุเสนาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยทางการเป็นผู้จัดทำขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นขวัญกำลังใจในโอกาสเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย ดังนั้น ทุกวันสงกรานต์เราจึงได้สรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ปีละครั้งและถือเป็นประเพณีสืบต่อกันมาจนปัจจุบัน
วันศุกร์, มีนาคม 06, 2552
กิจกรรม งานประเพณีเดือนมีนาคม
งาน "ถนนสายวัฒนธรรมเมืองตะกั่วป่า" ณ ถนนศรีตะกั่วป่า ทุกวันอาทิตย์ พ.ย.-เม.ย. ๑๔.๐๐-๒๐.๐๐ น.
ชมทุ่งดอกทิวลิป ณ "สวนทิวลิปนนท์" ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด ชมพรี ๗ ก.พ.-๓๑ มี.ค.
งานเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ๑๒-๑๗ มี.ค. ณ อนุสรณสถานถลางชนะศึก(โคกชนะพม่า) อำเภอถลาง ภูเก็ต
งานประเพณีกินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนิน จ.นครราชสีมา วันที่ ๑๓-๑๕ มี.ค. ณ ปราศาทเมืองแขก
กิจกรรมปั่นจักรยาน"ล่องเรือแลนก ชมอาทิตย์ตกที่ไสกลิ้ง" วันที่ ๑๕ มี.ค. อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ ๘ วันที่ ๒๓-๓๐ มี.ค.บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท่านท้าวสุรนารี วันที่ ๒๓ มี.ค.-๓ เม.ย. บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ. นครราชสีมา
การแข่งขันแม่น้ำโขงไตรกีฬาและทวิกีฬาชิงแชมป์นานาชาติ ๒๗-๒๙ มี.ค. อ.เมือง จ.หนองคาย
งานเทศกาลองุ่นหวานและของดีดำเนินสะดวก ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน บริเวณวัดราษฎร์เจริญธรรม(วัดสุน) จ.ราชบุรี
ชมทุ่งดอกทิวลิป ณ "สวนทิวลิปนนท์" ถนนแจ้งวัฒนะ ปากเกร็ด ชมพรี ๗ ก.พ.-๓๑ มี.ค.
งานเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร ๑๒-๑๗ มี.ค. ณ อนุสรณสถานถลางชนะศึก(โคกชนะพม่า) อำเภอถลาง ภูเก็ต
งานประเพณีกินเข่าค่ำ ของดีเมืองสูงเนิน จ.นครราชสีมา วันที่ ๑๓-๑๕ มี.ค. ณ ปราศาทเมืองแขก
กิจกรรมปั่นจักรยาน"ล่องเรือแลนก ชมอาทิตย์ตกที่ไสกลิ้ง" วันที่ ๑๕ มี.ค. อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
การแข่งขันโปโลช้างชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ ๘ วันที่ ๒๓-๓๐ มี.ค.บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท่านท้าวสุรนารี วันที่ ๒๓ มี.ค.-๓ เม.ย. บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จ. นครราชสีมา
การแข่งขันแม่น้ำโขงไตรกีฬาและทวิกีฬาชิงแชมป์นานาชาติ ๒๗-๒๙ มี.ค. อ.เมือง จ.หนองคาย
งานเทศกาลองุ่นหวานและของดีดำเนินสะดวก ปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน บริเวณวัดราษฎร์เจริญธรรม(วัดสุน) จ.ราชบุรี
ชื่อวัดตั้งมาจากไหน
แต่เดิมในสมัยครั้งพุทธกาลนั้น ยังไม่มีการสร้างอาคารสถาน ให้เป็นที่อยู่อาศัยของพระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะเจาะจง เนื่องจากพระพุทธองค์ไม่ทรงอนุญาตให้พระภิกษุมีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งถาวร ด้วยจะทำให้เกิดความยึดติดในทรัพย์ทางโลก จึงทรงกำหนดสถานที่สำหรับใช้เป็นที่อาศัยพื้นฐานสุด คือ "รุกขมูลเสนาสนะ" อันหมายถึงการอยู่รอบโคนต้นไม้ แล้วให้จาริกไปเรื่อย ๆ ทั้งนี้เพื่อมิให้จิตมีสิ่งผูกพัน
เมื่อพระพุทธเจ้าพร้อมเหล่าสาวกออกเผยแผ่พระศาสนา ปรากฎว่า มีผู้เลื่อมใสศรัทธาพากันบวชเป็นพระภิกษุจำนวนมากมายที่ไม่ได้บวชต่างก็ให้ความอุปถัมภ์เกื้อกูลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งนครราชคฤห์ ทรงประกาศตนเป็นองค์ศาสนูปถัมภ์ต่อพระพุทธศาสนา ทั้งทรงถวาย "เวฬุวัน" ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธองค์และเหล่าพุทธสาวก ซึ่งพระองค์ทรงรับไว้
สมัยหลังพุทธกาล เมื่อมีการสร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้น ทำให้บริเวณเหล่านี้เกิดเป็นที่ชุมนุมของเหล่าพระสงฆ์ และคฤหัสถ์ ที่เดินทางมาถึง ที่สุดแล้วก็เกิดมีพระภิกษุบางรูปสมัครใจที่จะอยู่พำนักเพื่อบำรุงรักษาสังเวชนียสถานเหล่านี้ ทั้งมีผู้ศรัทธาสร้างที่พักกุฎิสงฆ์ถวายแด่พระภิกษุดังกล่าว สถานที่นี้ ในที่สุดได้กลายสภาพเป็น "วัด" ที่สมบูรณ์แบบ สืบทอดกันมา จนเกิดเป็นแบบอย่างชัดเจน ดังปัจจุบัน
เวฬุวนารามเป็นวัดแห่งแรกของพุทธศาสนา สำหรับ วัดแห่งแรกในประเทศไทยนั้น คือ วัดปุณณารามดำรงอริยสงฆ์ ซึ่งพระเจ้าทับไทยทองสร้างประมาณศตวรรษที่ ๒๔ หลังกลับจากเวฬุวัน สร้างที่หนองยาว หรือ หนองวัด ใกล้ ๆ กับบ้านโพธิงาม และหนองเกษร(คูบัวราชบุรี) ถวายพระปุณณเถระ ให้ใช้เป็นที่บรรยายธรรมเผยแผ่พุทธศาสนา(ตามจารึกกระเบื้องจาร แผ่นที่ ๘ หน้า ๒ ) ปัจจุบันไม่มีซากเหลือให้เห็น กลายเป็นพื้นนา ที่เรียกว่าหนองวัด ในบริเวณเมืองโบราณคูบัว
เมื่อพระพุทธเจ้าพร้อมเหล่าสาวกออกเผยแผ่พระศาสนา ปรากฎว่า มีผู้เลื่อมใสศรัทธาพากันบวชเป็นพระภิกษุจำนวนมากมายที่ไม่ได้บวชต่างก็ให้ความอุปถัมภ์เกื้อกูลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งนครราชคฤห์ ทรงประกาศตนเป็นองค์ศาสนูปถัมภ์ต่อพระพุทธศาสนา ทั้งทรงถวาย "เวฬุวัน" ให้เป็นที่ประทับของพระพุทธองค์และเหล่าพุทธสาวก ซึ่งพระองค์ทรงรับไว้
สมัยหลังพุทธกาล เมื่อมีการสร้างพระสถูปเจดีย์ขึ้น ทำให้บริเวณเหล่านี้เกิดเป็นที่ชุมนุมของเหล่าพระสงฆ์ และคฤหัสถ์ ที่เดินทางมาถึง ที่สุดแล้วก็เกิดมีพระภิกษุบางรูปสมัครใจที่จะอยู่พำนักเพื่อบำรุงรักษาสังเวชนียสถานเหล่านี้ ทั้งมีผู้ศรัทธาสร้างที่พักกุฎิสงฆ์ถวายแด่พระภิกษุดังกล่าว สถานที่นี้ ในที่สุดได้กลายสภาพเป็น "วัด" ที่สมบูรณ์แบบ สืบทอดกันมา จนเกิดเป็นแบบอย่างชัดเจน ดังปัจจุบัน
เวฬุวนารามเป็นวัดแห่งแรกของพุทธศาสนา สำหรับ วัดแห่งแรกในประเทศไทยนั้น คือ วัดปุณณารามดำรงอริยสงฆ์ ซึ่งพระเจ้าทับไทยทองสร้างประมาณศตวรรษที่ ๒๔ หลังกลับจากเวฬุวัน สร้างที่หนองยาว หรือ หนองวัด ใกล้ ๆ กับบ้านโพธิงาม และหนองเกษร(คูบัวราชบุรี) ถวายพระปุณณเถระ ให้ใช้เป็นที่บรรยายธรรมเผยแผ่พุทธศาสนา(ตามจารึกกระเบื้องจาร แผ่นที่ ๘ หน้า ๒ ) ปัจจุบันไม่มีซากเหลือให้เห็น กลายเป็นพื้นนา ที่เรียกว่าหนองวัด ในบริเวณเมืองโบราณคูบัว
วันพฤหัสบดี, มีนาคม 05, 2552
เที่ยวดอยหลวง-วัดถ้ำเชียงดาว
หากนึกถึงการท่องเที่ยวบนดอยสูงใน จ.เชียงใหม่ ส่วนมากอาจจะนึกถึงหมอกใส ป่าสวยบนดอยอินทนนท์ หรือ ดอยอ่างขาง แท้จริงแล้วยังมีดอยหลวงเชียงดาวอีกแห่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กัน แถมยังมีทัศนียภาพแปลกแตกต่างกว่ายอดดอยทั้ง ๒ แห่ง และเหมาะกับนักท่องเที่ยวผู้นิยมเดินป่าไกล ๆ โดยไม่มีคาราวานรถขับเคลื่อนสี่ล้อให้รำคาญหู
ไม่เพียงเท่านั้น จากการสำรวจยังพบว่า บนดอยหลวงเชียงดาวมีพันธุ์ไม้กว่า ๑,๗๒๒ ชนิด ๑๗๓ วงศ์ ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่ต่ำกว่า ๓๔๐ ชนิด จึงนับว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าแวะอีกแห่งของ ต. เชียงดาว คือ "วัดถ้ำเชียงดาว" ซึ่งว่ากันว่า ถ้าใครมาเชียงดาว แต่ไม่ได้มาแวะไหว้พระที่วัดถ้ำเชียงดาวถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงดาวอย่างแท้จริง
...วัดถ้ำเชียงดาวตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ ๕ ตำบลเชียงดาว ภายในมีถ้ำเล็ก ๆ หลายถ้ำ ทั้งยังมีหินงอก หินย้อย และพระพุทธรูปโบราณที่สวยงาม ภายในถ้ำจะมีทางเดินเป็นระยะทางกว่า ๔๐๐ เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและใฝ่ในธรรมะไปในตัว
นักท่องเที่ยวที่นิยมการล่องแพก็สามารถมาชมความงดงามของขุนเขาและสายน้ำ ที่ "ฝายวังไฮ" ซึ่งเป็นฝายเก็บน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สืบสานองค์ความรู้ในการจัดการน้ำแบบชาวล้านนามานานนับร้อย ๆ ปี ฝายแห่งนี้เป็นฝายไม้เก่าแก่ มีการจัดสรรน้ำหล่อเลี้ยงชาวบ้านใน ๓ หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านม่วงฆ้อง บ้านดง และบ้านมุ่งหลุก ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้ชาวบ้านที่นี่มีน้ำใช้สำหรับทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็น่าสนใจ เช่น "วังมัจฉา"หน้าวัดอินทาราม "โป่งน้ำร้อน"บ้านยางปู่โต๊ะซึ่งเป็นโป่งน้ำร้อนธรรมชาติที่ไม่ได้ก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพิ่มเติม และ "ปางช้างแม่จร"ในพื้นที่หมู่ ๑๑ เป็นต้น
ไม่เพียงเท่านั้น จากการสำรวจยังพบว่า บนดอยหลวงเชียงดาวมีพันธุ์ไม้กว่า ๑,๗๒๒ ชนิด ๑๗๓ วงศ์ ทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าไม่ต่ำกว่า ๓๔๐ ชนิด จึงนับว่าเป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าแวะอีกแห่งของ ต. เชียงดาว คือ "วัดถ้ำเชียงดาว" ซึ่งว่ากันว่า ถ้าใครมาเชียงดาว แต่ไม่ได้มาแวะไหว้พระที่วัดถ้ำเชียงดาวถือว่ายังมาไม่ถึงเชียงดาวอย่างแท้จริง
...วัดถ้ำเชียงดาวตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ ๕ ตำบลเชียงดาว ภายในมีถ้ำเล็ก ๆ หลายถ้ำ ทั้งยังมีหินงอก หินย้อย และพระพุทธรูปโบราณที่สวยงาม ภายในถ้ำจะมีทางเดินเป็นระยะทางกว่า ๔๐๐ เมตร เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมการท่องเที่ยวแบบผจญภัยและใฝ่ในธรรมะไปในตัว
นักท่องเที่ยวที่นิยมการล่องแพก็สามารถมาชมความงดงามของขุนเขาและสายน้ำ ที่ "ฝายวังไฮ" ซึ่งเป็นฝายเก็บน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สืบสานองค์ความรู้ในการจัดการน้ำแบบชาวล้านนามานานนับร้อย ๆ ปี ฝายแห่งนี้เป็นฝายไม้เก่าแก่ มีการจัดสรรน้ำหล่อเลี้ยงชาวบ้านใน ๓ หมู่บ้าน คือ หมู่บ้านม่วงฆ้อง บ้านดง และบ้านมุ่งหลุก ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทำให้ชาวบ้านที่นี่มีน้ำใช้สำหรับทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ก็น่าสนใจ เช่น "วังมัจฉา"หน้าวัดอินทาราม "โป่งน้ำร้อน"บ้านยางปู่โต๊ะซึ่งเป็นโป่งน้ำร้อนธรรมชาติที่ไม่ได้ก่อสร้างอาคารต่าง ๆ เพิ่มเติม และ "ปางช้างแม่จร"ในพื้นที่หมู่ ๑๑ เป็นต้น
เมืองโบราณกลางอ้อมกอดขุนเขา
..พื้นที่ ต.เชียงดาวมีการขุดพบซากกำแพงเมืองโบราณ คูเมืองและซากเจดีย์ที่ทำด้วยศิลาแลง ทั้งยังพบซากวัดร้างมากมาย เช่น วัดใจ(ชัยดงเทวี) วัดป่าแดง วัดทุ่งละคร และยังเคยมีผู้ขุดพบพระพุทธรูปโบราณกลางทุ่งนาบ้านดงเป็นจำนวนมาก
..จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นัก.โบราณคดีเชื่อว่า เมืองโบราณใน ต.เชียงดาว สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช แต่ไม่ปรากฎหลักฐานว่าเหตุใดเมืองโบราณแห่งนี้จึงถูกปล่อยทิ้งรกร้างไปเฉยๆ
ตำนาน เรื่องชื่อเชียงดาว.. นิวัต จำปี นายองค์การบริเหารส่วนตำบลเชียงดาวเล่าว่า เมื่อปีพ.ศ.๒๓๒๗ มีกลุ่มชนเผ่าอพยพจากแคว้นสิบสองปันนา เดินทางเข้ามาตั้งบ้านเรือนและสร้างบ้านแปลงเมืองในพื้นที่ดอยสูงแห่งนี้ มีชื่อ"บ้านเปียงดาว" ตามชื่อดอยหลวงสูงเปียงดาว(เพียงดาว) ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น"เชียงดาว"
ดอยหลวงเชียงดาวเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำ สูง ๒,๑๙๕ เมตรจากน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นอันดับ ๓ รองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก
..จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ นัก.โบราณคดีเชื่อว่า เมืองโบราณใน ต.เชียงดาว สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช แต่ไม่ปรากฎหลักฐานว่าเหตุใดเมืองโบราณแห่งนี้จึงถูกปล่อยทิ้งรกร้างไปเฉยๆ
ตำนาน เรื่องชื่อเชียงดาว.. นิวัต จำปี นายองค์การบริเหารส่วนตำบลเชียงดาวเล่าว่า เมื่อปีพ.ศ.๒๓๒๗ มีกลุ่มชนเผ่าอพยพจากแคว้นสิบสองปันนา เดินทางเข้ามาตั้งบ้านเรือนและสร้างบ้านแปลงเมืองในพื้นที่ดอยสูงแห่งนี้ มีชื่อ"บ้านเปียงดาว" ตามชื่อดอยหลวงสูงเปียงดาว(เพียงดาว) ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น"เชียงดาว"
ดอยหลวงเชียงดาวเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำ สูง ๒,๑๙๕ เมตรจากน้ำทะเล ซึ่งสูงเป็นอันดับ ๓ รองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก
วันพุธ, มีนาคม 04, 2552
"แหล่งเรียนรู้กะปอมยักษ์"
"กะปอมยักษ์" ในที่นี้ก็คือไดโนเสาร์ของชาวอีสานนั่นเอง ทุกพื้นที่ของภาคอีสานทั้งขอนแก่น กาฬสินธุ์ นครพนม มุกดาหาร เคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของไดโนเสาร์นานาชนิด ตั้งแต่พวกกินเนื้อขนาดใหญ่อย่าง "เทอโรพอด" ซึ่งหนักกว่าช้างหลายตัวรวมกันไปจนถึงไดโนเสาร์ปากนกแก้วตัวเท่าแม่ไก่
..ตามรอยกะปอมยักษ์ ต้องเริ่มต้นที่ภูเวียง จ.ขอนแก่น จุดนี้มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์แห่งแรก ทำให้เราได้ทราบว่าพื้นที่ของประเทศไทยเคยมีไดโนเสาร์อาศัยอยู่ ใครอยากเห็นหน้าตาไดโนเสาร์แต่ละพันธุ์ ก็ต้องเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงที่ภายในมีการจัดแสดงโครงร่างไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เท่าตัวจริง รวมทั้งชิ้นส่วนกระดูกและรอยเท้า
..ตามรอยกะปอมยักษ์..ต่อที่ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่ขุดพบซากไดโนเสาร์กินพืชมากที่สุดในประเทศไทย โดยพบโครงกระดูกมากกว่า ๖๕๐ ชิ้น ห่างจากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าวไม่ไกลมากนัก คือ "พิพิธภัณฑ์สิรินธร"
..พิพิธภัณฑ์สิรินธร แหล่งเรียนรู้เรื่องราวของไดโนเสาร์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เมื่อก้าวเข้าไปด้านในสิ่งแรกที่พบคือ ไดโนเสาร์ต้นตระกูลของเจ้าทีเร็กซ์นามว่า "สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส" ยืนจังก้าเพื่อคอยต้อนรับผู้มาเยือน
..ออกจากภูกุ้มข้าว ต่อกันที่ภูผาเทิบ..ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร จ.มุกดาหาร สัมผัสฟอสซิลไดโนเสาร์กันอย่างใกล้ชิด ลานมุจลินท์..ลานหินเรียบที่ทอดยาวกว่า ๑,๐๐๐ เมตรบนภูผาเทิบแห่งนี้
พบเจอบทความที่น่าสนใจนี้จากนิตยสารDazzle Travel&Magazine
..ตามรอยกะปอมยักษ์ ต้องเริ่มต้นที่ภูเวียง จ.ขอนแก่น จุดนี้มีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์แห่งแรก ทำให้เราได้ทราบว่าพื้นที่ของประเทศไทยเคยมีไดโนเสาร์อาศัยอยู่ ใครอยากเห็นหน้าตาไดโนเสาร์แต่ละพันธุ์ ก็ต้องเข้าไปดูในพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงที่ภายในมีการจัดแสดงโครงร่างไดโนเสาร์ขนาดใหญ่เท่าตัวจริง รวมทั้งชิ้นส่วนกระดูกและรอยเท้า
..ตามรอยกะปอมยักษ์..ต่อที่ภูกุ้มข้าว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่ขุดพบซากไดโนเสาร์กินพืชมากที่สุดในประเทศไทย โดยพบโครงกระดูกมากกว่า ๖๕๐ ชิ้น ห่างจากแหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าวไม่ไกลมากนัก คือ "พิพิธภัณฑ์สิรินธร"
..พิพิธภัณฑ์สิรินธร แหล่งเรียนรู้เรื่องราวของไดโนเสาร์ที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ เมื่อก้าวเข้าไปด้านในสิ่งแรกที่พบคือ ไดโนเสาร์ต้นตระกูลของเจ้าทีเร็กซ์นามว่า "สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส" ยืนจังก้าเพื่อคอยต้อนรับผู้มาเยือน
..ออกจากภูกุ้มข้าว ต่อกันที่ภูผาเทิบ..ส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติมุกดาหาร จ.มุกดาหาร สัมผัสฟอสซิลไดโนเสาร์กันอย่างใกล้ชิด ลานมุจลินท์..ลานหินเรียบที่ทอดยาวกว่า ๑,๐๐๐ เมตรบนภูผาเทิบแห่งนี้
พบเจอบทความที่น่าสนใจนี้จากนิตยสารDazzle Travel&Magazine
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ณ แรกรัก
ชื่อเรื่อง ณ แรกรัก ผู้แต่ง ปาระมิตา แนวโรแมนติกแฟนตาซี จำนวน 462 หน้า สำนักพิมพ์กรีนมายด์ ภาสุระนครแห่งนี้มีเจ้าชายและเจ้าหญิงเป็นแ...

-
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ..อยู่ห่างจากอำเภอเมืองกาญจนบุรีประมาณ ๑๗๕ กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข ๓๒๓(กาญจนบุรี-ไทยโยค-ทองผาภูมิ)ระยะทางประมาณ...
-
การขุดค้นแหล่งโบราณคดีดอนขุมเงิน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2548-มกราคม 2549 โดยการสนับสนุนงบประมาณจากงบบูรณาการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อศึกษาและพัฒ...
-
การเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแนวคิดไทยในเรื่องต่าง ๆ ของชีวิต มีปัญหาและความจำกัดหลายประการ ทั้งประมาณและประเภทของข้อมูลการตีความ และการวิเคราะห...